วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2559

ฝากขาย ขายฝาก และการจำนอง ต่างกันอย่างไร

ฝากขาย กับ ขายฝาก และการจำนอง มันคนละเรื่องกันเลยนะ บทความนี้จะบอกถึงความแตกต่างของสามคำนี้ครับ

1.ฝากขาย


ฝากขาย คือ การเอาของไปฝากคนที่รู้จักหรือไม่รู้จักขายให้ เมื่อขายได้ก็แบ่งปันรายได้หรือผลกำไรกัน

2.ขายฝาก


ขายฝาก คือ การกู้ยืมเงินชนิดหนึ่ง มีกฏหมายรองรับ โดยมีการเอาทรัพย์สินมาขาย(ค้ำประกัน) ส่วนใหญ่นิยมใช้อสังหาริมทรัพย์ (จริงๆตามกฏหมาย สังหาริมทรัพย์ก็ใช้ได้ แต่ไม่ค่อยมีใครทำ มักทำในรูปแบบจำนำ ซึ่งไม่แตกต่างกัน) โดยผู้ขายฝาก(ผู้กู้) นำทรัพย์สินมาขายฝากไว้ให้กับผู้รับขายฝาก(ผู้ให้กู้) หากเป็นอสังหาริมทรัพย์ ต้องไปทำนิติกรรมขายฝากที่ สนง.ที่ดิน ไม่ใช่ทำกันเองที่บ้าน จึงจะถูกต้องตามกฏหมาย

3.จำนอง


เรื่องขายฝาก กับ จำนอง โดยใช้อสังหาริมทรัพย์เป็นตัวกลาง มีความคล้ายคลึงกันในเรื่องเป็นการกู้ยืมเงิน แต่ก็มีจุดต่างที่สำคัญมากอยู่จุดนึง นั่นคือ เรื่องกรรมสิทธิ์ในทรัพย์
หลายท่านคงรู้จักการจำนองแล้ว ซึ่งก็คือการที่เรากู้เงินซื้อบ้านหรือซื้อคอนโดกับแบงก์น่ะแหละ เรานำบ้านนำคอนโดไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ และผ่อนจ่ายค่างวดกับแบงก์เป็นงวดๆไป ระยะเวลาในการผ่อนยาวๆ 10 ปี 20 ปี 30 ปี ก็ว่ากันไป แต่ประเด็นสำคัญ คือ กรรมสิทธิ์ยังเป็นของผู้กู้ ผู้ให้กู้ หรือ ธนาคารเป็นเพียงผู้รับจำนอง ไม่ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่จำนอง เมื่อผู้กู้ผิดสัญญา ผู้ให้กู้ในฐานะเจ้าหนี้ ต้องติดตามทวงถามหนี้กับลูกหนี้ จนถ้าทวงไม่ไหว ก็จะดำเนินการฟ้องร้องต่อศาล เพื่อขอยึดทรัพย์นำไปขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ ผ่านกระบวนการของกรมบังคับคดี หากขายทอดตลาดแล้วยังไม่พอ ก็จะตามกับลูกหนี้ต่อไป หากพอและมีเงินเหลือหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว ก็จะคืนให้กับลูกหนี้ และเครดิตลูกหนี้ก็จะเน่า
ส่วนการขายฝาก ประเด็นสำคัญคือ กรรมสิทธิ์ได้ถูกเปลี่ยน ณ วันจดทะเบียนขายฝากเป็นที่เรียบร้อย แต่ยังให้สิทธิ์ผู้ขายฝาก(ผู้กู้) เมื่อถึงกำหนดไถ่ถอน(ปกติระยะเวลาจะสั้นมาก แค่ 1 ปี แม้กฏหมายจะให้ทำได้ถึง 10 ปี) นำเงินมาชำระหนี้ กรรมสิทธิ์ก็จะกลับมาเป็นของผู้ขายฝาก แต่หากถึงกำหนดไถ่ถอน ผู้ขายฝาก ไม่มาไถ่ถอน ก็จะหมดสิทธิ์ซื้อคืนในราคาไถ่ถอนอีก กรรมสิทธิ์ถูกเปลี่ยนมือโดยไม่มีสิทธิกลับไปเป็นของผู้ขายฝากอีก โดยผู้รับขายฝาก (ผู้ให้กู้) ไม่ต้องไปดำเนินการฟ้องร้องยึดทรัพย์ขายทอดตลาดอะไรอีก

นี่คือข้อแตกต่างสำคัญ
ที่อยากจะพูดถึงจริงๆคือ ถ้าจำเป็นเดือดร้อนต้องใช้เงินจริงๆ ผมยังมองว่าการขายทรัพย์ออกไปในราคาต่ำกว่าราคาตลาดสัก 20% ยังดีกว่าการขายฝากแน่นอน เพราะขายฝาก ต้องขายในราคาต่ำประมาณ 60% ของราคาตลาด แถมโดนค่าภาษี โดนค่าธรรมเนียมเข้าไป โดนหักดอกล่วงหน้าอีก ก็เหลือเงินกลับไปแถวๆ 50% ของราคาตลาด ไหนจะต้องจ่ายดอกเบี้ยรายเดือนอีก ต่างหาก สู้ขายเร็วๆ แล้วฟื้นตัวเมื่อไหร่ ค่อยไปหาซื้อทรัพย์ที่ชอบไม่ดีกว่าหรือ?

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1674236012837452&id=1437709549823434
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1674454036148983&id=1437709549823434

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น