วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2557

แนวทางการเริ่มต้นธุรกิจ


บทความของคุณ ภาววิทย์ แห่งหุ้นพรุ่งนี้ เขียนแนวทางการเริ่มต้นธุรกิจได้ดีมากครับเขาว่า

หนึ่งในบทเรียนการสร้างธุรกิจ Red Ocean.. หลายคน ธุรกิจนึกว่าจะเป็น Blue or Red Ocean ขึ้นกับธุรกิจ ..จริงๆ ไม่ใช่นะ ...มันขึ้นกับ Approach ของเจ้าของธุรกิจว่า เข้าสู่สมรภูมิในมุมไหนมากกว่า ..."จริงๆ" ผมว่า มุมที่ดีที่สุด ควรเป็นมุมที่ "ตัวเรา" ถนัดที่สุดต่างหากล่ะ ...ผมว่า "ที่ยืน" มันมีเสมอกับคนที่มุ่งมั่นทำในสิ่งที่ตัวเองรักและทำได้ดี ..แม้คุณจะไม่ได้เป็นคนที่เก่งที่สุด แต่คนที่มี Passion ในสิ่งที่ตัวเองทำ และ งานของตัวเอง -- ย่อมทำได้ดี .."ดีพอ" -- แล้วค่อยๆ โตจากตรงนั้น ผมว่า นั่นแหละคือ จุดเริ่มต้นที่ดีของการทำงาน ทำธุรกิจ 

จากนั้นก็ลิงค์ไปบทความ Low cost Airline กับผู้ก่อตั้ง JETBLUE [1] เขาก็สู้ชีวิตกับธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำมาเรื่อยๆ จนสำเร็จ


ปัจจุบัน Neeleman อายุ 51 ปี ก็ได้ร่วมกับนักลงทุนก่อตั้ง Azul Airline ในประเทศ Brazil "และนี่แหละที่ผมบอกว่า คนที่ประสบความสำเร็จ มันไม่ได้ มาง่ายๆ อย่างที่หลายๆคนคิด" ...การทำธุรกิจมันเป็น Process ระยะยาว และสิ่งที่สำคัญที่สุดมันคือ "ประสบการณ์" ที่ไม่มีใครสามารถจะเอาไปจากคุณได้

ด้วย"ประสบการณ์"ที่มากพอ --- มันจะเป็นบันไดสู่ความสำเร็จ !! (นี่คือชีวิตจริง)




ที่มา
[1]http://www.pawawit.com/2010/09/low-cost-airline-jetblue.html

4 ขั้นตอนสั่งงานลูกน้องให้ได้งาน

เกิดขึ้นบ่อยมั๊ย? กับปัญหานี้ "ทำไมสั่งแล้วลูกน้องไม่ทำ?"
ในวงการ Corporate Sales มีคำ classic อยู่คำนึง
“ People don’t do what you expect. They only do what you inspect.” แปลได้ว่า “ลูกน้องคุณเค้าไม่ทำสิ่งที่คุณหวังให้เค้าทำหรอก เค้าจะทำเฉพาะสิ่งที่คุณตรวจสอบจริง”
ตัวอย่าง classic ที่ผมเจอมาตลอดตอนประชุมกับ Sales Manager
แล้วถามพวกเค้าไปว่าทำไมเซลล์ไม่ทำในสิ่งที่บริษัทให้นโยบายไป
คำตอบส่วนมากคือ “ผมสั่งไปแล้วครับ แต่เซลล์คนนี้ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่ยอมทำ”
ในกรณีนี้คุณว่าใครผิดครับ เซลล์หรือ Sales Manager?
คำตอบที่ผมการันตีเลย……คนผิดคือ Sales Manager เต็มๆ
เดาก็รู้เลยครับว่าสาเหตุที่เซลล์ไม่ยอมทำตามที่สั่งมีไม่กี่อย่าง

  1. Sales Manager สั่งไม่ชัดเจน
  2. คำสั่งเป็นปากเปล่า ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร
  3. บอกอย่างเดียวว่าให้ทำอะไร แต่ไม่บอกว่าทำอย่างไร
  4. บอกไปแล้ว แต่ไม่มีระบบตรวจสอบว่าทำจริงหรือไม่

ถ้าคุณไม่ follow How To 4 ข้อดังกล่าวที่ว่ามา
ผมพอจะเดาออกเลยครับว่า หลังจากที่คุณสั่งงานไปแล้ว
ลูกน้องคุณส่วนใหญ่จะบอกว่า “ได้ครับ ได้ค่ะ”
แต่ผลลัพธ์จริง มันจะช่างต่างจากที่คุณคาดหวังแบบลิบลับ
ผมยกตัวอย่างที่ถูกต้องให้ดูนะครับ
เช่นโจทย์คือต้องการเน้นขายสินค้า A เพิ่มมากขึ้น
โจทย์นี้ถือว่ากำกวมและไม่ควรใช้เป็นคำสั่ง
อยากพบ How to แก้ปัญหาเหล่านี้ติดตามกันต่อได้กับ Sales101
ในวันพรุ่งนี้ ห้ามพลาด!
.
.
.
.
.
กลับมาติดตามกันต่อกับ How to เริ่ม Follow กันเลยที่...

  1. สั่งลงไปว่าเซลล์แต่ละคนต้องขายสินค้า A ให้ได้ไม่ต่ำกว่าคนละ 10 ออเดอร์ในแต่ละเดือน เริ่มเดือนหน้า (คำสั่งเริ่มเฉพาะเจาะจงและมีการวัดผลรวมถึงช่วงเวลากำกับ)
  2. อธิบายตอนประชุมทีมเสร็จแล้ว ลงเป็นลายลักษณ์อักษรในอีเมล์ด้วย
  3. ให้วิธีในการทำอย่างชัดเจน เช่นทุกคนต้องโทรไปหาลูกค้า Top 50 ที่เคยซื้อขายกับเราอยู่ และเสนอราคาตัวนี้ภายใน 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นโทรตามต่อในอีกสัปดาห์ถัดไปเพื่อติดตามผล อย่างนี้เป็นต้น
  4. ต้องมีเครื่องมือในการตรวจสอบได้ว่าเสนอจริงหรือไม่ เช่นหลักฐานใบเสนอราคาที่ทำส่ง

ลองใช้ How To นี้เพื่อการคุมที่มีประสิทธิภาพนะครับ อย่าลืมว่า “People don’t do what you expect. They only do what you inspect.”

ที่มา
[1]https://www.facebook.com/899449636746618/photos/a.903098266381755.1073741828.899449636746618/907287725962809/?type=1
[2]https://www.facebook.com/899449636746618/photos/a.903098266381755.1073741828.899449636746618/907287942629454/?type=1

วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557

วิธีการทำให้เวลาแชร์บทความในเฟสแล้วขึ้นรูปใหญ่ๆ


เขียนบทความเดี๋ยวนี้ต้องให้ google ชอบคนจะค้นหาเจอเยอะ facebook ชอบคนจะแชร์เยอะ เทคนิคอยู่ที่สัดส่วนภาครับ จะโพสรูปต้อง  600 x 315 px หรือคิดเป็นสัดส่วน 1.91 ต่อ 1  แล้วจะพอดีเยี่ยมจริง

ที่มา http://louisem.com/3838/facebook-link-thumbnail-image-sizes

ถ้า facebook มันไม่ฉลาดไม่ยอมเลือกรูปที่ต้องการมาเป็น thumbnail เวลาแชร์ ก็เพิ่ม Facebook Open Graph META Tags บน teg head ของหน้าที่ต้องการว่่า
<meta property="og:image" content="urlรูปของท่าน"/>

วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2557

วิธีเพิ่มรายได้ 2 วิธี

สิบกว่าปีก่อน เซลล์รุ่นพี่สอนงานผม...ว่า การจะเพิ่มรายได้ให้บริษัท มันมีแค่ 2 วิธีบนโลก

  1. ขายสินค้าเก่า ให้ลูกค้าใหม่
  2. ขายสินค้าใหม่ ให้ลูกค้าเก่า

"เฮ้ยโป้ง...เมิงว่า ข้อไหนทำง่ายกว่า?"

ตอนนั้นจำไม่ได้ว่าตอบไปว่าอะไร แต่จำเฉลยได้ว่า "ตอบข้อ 2"

เพราะต้นทุนการหาลูกใหม่ มันแพง ... แพงกว่าการทำสินค้าใหม่ ไปขายลูกค้าเก่า ตัวอย่างล่าสุดที่ผมเห็นคาตาคือ ร้านกาแฟ Starbucks

Starbucks ไม่ได้ขายแต่กาแฟ เครื่องดืม และเบเกอรี่ อย่างเดียว

***แต่ขายอาหารด้วย***

"สลัดไก่ ตาบั๊ค" Chicken Salad with Sesame Dressing สลัดไก่ย่าง น้ำสลัดงาญี่ปุ่น หน้าตาดูดีมาก
อร่อย สด สะดวก ... และแพง (ที่จริง มันแพงทุกอย่าง แต่ของเขาดีนะ)

มอง Starbucks แล้วก็นึกย้อนถึงสารพัดอาหารอิ่มสะดวกของ เซเว่น อีเลฟเว่น
พยายามแบบนี้ไปเรื่อยๆ รายได้ก็เพิ่มไปเรื่อยๆกิจการแสนล้านระดับนี้เค้ายัง "ขยันไม่หยุด"
เราเองก็ต้อง "ไม่หยุดขยัน" นะครับนะ

ที่มา https://www.facebook.com/422259541199493/photos/a.422586424500138.1073741829.422259541199493/741447495947361/