วันอังคารที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2558

วิธีมัดถุงให้โป่งๆ

การมัดถุงอาหารให้โป่งๆ ถือเป็นนวัตกรรมทางด้านบรรจุภัณฑ์ของคนไทย ทำให้อาหารดูน่ากินมากขึ้น ขายดีขึ้น ฯลฯ เป็นทักษะที่พ่อค้าแม่ค้าควรมี และต้องใช้ความชำนาญอย่างมากมาดูวิดิโอสาทิตวิธีการมัดกันครับผม



f

วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2558

วิธีป้องการพนักงานหน้าร้านทุจริต

วิธีคุมสต็อกหน้าร้าน

คำถาม

มีปัญหาเรื่องลูกน้องขายของไม่ออกบิล กับแอบเอาเงินไปทีละนิดโดยให้เหตุผลว่าให้เป็นส่วนลดลูกค้าไปบ้าง ทอนผิดบ้าง จะแก้ยังไงดี

คำตอบ

ทั้งสองปัญหา ต้องแก้ที่ต้นทาง คือการรับสต็อกเข้าร้านและมีการนับสต็อกสม่ำเสมอ ทั้งสุ่มนับและนับ 100% ขอให้ใช้วิธีตามนี้นะครับ ถ้าคุณทำประจำ ของในร้านคุณจะหายน้อยมากถึงไม่หายเลย ผมใช้วิธีนี้มาเป็น สิบปีแล้ว ทุกวันนี้ร้านในความดูแลกว่า 10 สาขา แท[ไม่มีของหายเลย


  1. ทำสต็อกการ์ด หรือโปรแกรมบัญชี (POS) อะไรก็ได้ โดยนับหน่วยเข้าเป็นหน่วยและเงินบาทราคาปลีก เช่าสาขานี้ รับสินค้าเข้าร้าน 10 ชิ้น ชิ้นละ 100 บาท รวมมูลค่า 1,000 บาท
  2. ออกกฎไม่มีการให้ส่วนลดทุกกรณี ถ้าพนักงานอยากจะลดก็จ่ายส่วนต่างเองละกัน ร้านต้องได้เงินเข้าเต็มจำนวนราคาปลีกที่รับสต็อกเข้าไปเสมอ ข้อนี้ต้องใจแข็งมากๆนะครับ ไม่งั้นคุณจะคุมอะไรไม่ได้เลย และก็อย่าไปใจดีให้พนักงานใช้คืนในราคาทุน
  3. ของเป็นชิ้น ให้สุ่มเช็ค 10% ของรายการสินค้าทุกเดือน และนับ 100% สักครี่งนึงของรายการสินค้า และ 2-3 เดือนก็ปิดร้านนับใหญ่ทีนึง print รายงานยอดคงเหลือออกมาพร้อมราคาปลีก ส่วนต่างกี่บาทก็ใช้เงินคืนมา จะหารเท่าหรือหารไม่เท่าก็ว่าไปแต่ต้องตกลงกันแต่แรกให้ชัด

    พยายามทำบ่อยแต่อย่างบอกให้พนักงานรู้ตัว ไม่งั้นไหวตัวทัน เมื่อนับเสร็จ รายการไหนไม่ครบ ปรับทันทีไม่มีการประนีประนอม ข้อนี้ก็ต้องใจแข็งเช่นกัน ไม่งั้นคุณจะเป็นหมูไปเรื่อยๆ นาทีนี้คนกลัวตกงานมากครับ เป็นโอกาสดีที่เจ้าของจะจัดระเบียบภายในร้านค้า

    การจับลูกค้าขโมยของในร้านก็เหมือนกัน จะแจ้งความ จะปรับ ยังไงก็ต้องทำ ห้ามใจอ่อน แม่ผมเคยเล่าให้ฟังว่าเจอขโมยในร้านมากันเป็นแกงค์ สองคนล่อพนักงานไปทาง อีกคนกำลังปลดเสื้อออกจากไม้แขวนลงกระเป๋าแบบเพลินเลย แม่ผมถือกรรไกรใหญ่ ย่องเข้าไปปักกลางท้ายทองเลยนะครับ แบบมึงขยับอีกโดนเสียบแน่ สุดท้ายก็เข้าคุกไปทั้งแกงค์
  4. ถ้าเป็นพวกของกิน ร้านกาแฟ ไอติม ให้ใช้วิธีชั่งน้ำหนักของของที่เหลือ หักลบจากจำนวนที่เอาเข้าร้าน และกรุณาเอาเข้าร้านจำนวนน้อยๆแต่เข้าบ่อยๆหน่อย จะปิดโอกาสโกงได้เยอะ ร้านที่ชอบเอาของสดเข้าไปทีเป็นกิโลแล้ว 2 อาทิตย์เข้าไปดูทีนี่ ลาก่อนครับ คุณได้เปิดกองทุนขายไปแจกไปเรียบร้อยแล้ว

ฝากเรื่องสุดท้ายคือ
"พนักงานหน้าร้านไม่มีสิทธิ์รู้ราคาทุน" โดยเฉพาะรู้จากเราเอง ถ้าจะรู้จากการไปถามร้านข้างๆที่ขายของเหมือนกันก็ช่วยไม่ได้

การรู้ราคาทุนกับราคาขาย เป็นมูลเหตุแห่งการอยากโกงอย่างนึง และโดยเฉพาะว่าถ้าเราขายดีมากๆ ได้กำไรเยอะๆแต่ดันจ้างพนักงานราคากลางๆนี่ พนักงานจะหมั่นไส้และอยากโกงขึ้นเป็นทวีคุณด้วยข้อหาไม่ยอมให้เจ้าของรวยคนเดียว

ปัญหาการทุจริตนั้นจริงๆแล้วเป็นเรื่องของการบริหารความสุขของพนักงานมากกว่าการบริหารสินค้านะครับ เพราะสินค้านั้นไม่มีเท้า มันคงเดินออกไปจากร้านเราเองไม่ได้นอกจากมีคนหยิบไป ไม่พนักงานก็ลูกค้า

การที่เราทำให้พนักงานมีความสุข รักร้านเราเหมือนบ้านเค้าเองจะทำให้เค้ามีใจช่วยสอดส่องดูแลของในร้านได้ดียิ่งขึ้น เพราะเค้าจะรู้สึกว่าที่นี่คือบ้านของเค้าเอง เราย่อมไม่อยากให้ใครมาขโมยของออกไปจากบ้านเรา

ลองดูนะครับ

ที่มา https://www.facebook.com/trickofthetrade/posts/970192026347452?fref=nf&pnref=story

วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2558

ทำไงให้งานจบตามกำหนด และไม่ต้องแก้บ่อย

รู้มั้ยทำไงให้งานจบตามกำหนด และไม่ต้องแก้บ่อย

  • - ยังไม่โดน
  • - ก็โอเคแต่ขอปรับอีกหน่อย
  • - แก้ตามคอมเม้น 
  • - เลือกแบบไปแล้วแก้จนจะจบแล้วขอเปลี่ยนแบบใหม่
  • - ส่งแบบไปแล้วสองอาทิตย์ไม่ตรวจพอดูปุ๊บจะขอเลยพรุ่งนี้

ใครเคยเจอซักข้อมั้ยครับ หรือเจอมาหมดแล้ว 555...มันเป็นเรื่องปกติรึเปล่า จริงๆแล้วแต่ละเรื่องมีสาเหตุและการแก้ไขไม่เหมือนกัน
จากเคสที่ผมเจอมาหลายปีบางเรื่องเกิดจาก การตกลงเงื่อนไขในการทำงานที่ไม่ชัดเจนตั้งแต่แรก เพราะคนที่รับงานมักคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เลยไม่ตั้งเงื่อนไขอะไรให้ลูกค้า เพราะกลัวว่าลูกค้าจะไม่ใช้บริการ แต่เอาเข้าจริงเจอลูกค้าละเอียดมาก หรือมีหุ้นส่วนหลายคนเปลี่ยนแบบแล้วเปลี่ยนอีกไปเรื่อย หรือประเภทที่บอกมาอย่างนึงแต่พอดูแบบถึงรู้ว่าไม่ชอบแบบที่บอกมา
เคสแบบนี้อันดับแรกเลยคือคุณพอใจกับการทำงานแบบไหนถ้าคิดว่าการแก้ไขได้ไม่จำกัดจนงานเสร็จจะดีที่สุดก็ต้องตั้งราคาไว้เผื่อให้มีการเปลี่ยนแบบและแก้ไขจนกว่าจะเสร็จด้วย เพราะค่าเวลาของคุณมีมูลค่า หรือถ้าคุณคิดว่าราคาสำคัญกว่าในการได้งานมาก็ตั้งเงื่อนไขการแก้งานให้ชัดเจน และแจ้งลูกค้าว่าเป็นการส่งแบบครั้งที่เท่าไหร่แก้ได้อีกกี่ครั้งและอย่าแหกกฎที่ตัวเองเป็นตั้งซะเอง เพราะจะไม่มีใครเคารพกฎคุณต่อไปอีก
แต่สิ่งที่จะช่วยได้มากเลยคือ การทำงานที่มีคุณภาพถ้าคุณเข้าใจโจทย์ ใส่ไอเดียและใส่ใจในรายละเอียดงานจนเกินความคาดหมายของลูกค้าการแก้ไขจะลดไปอย่างมาก
และหลายครั้งก็อย่าพลาดเพราะความไม่รอบคอบของคุณเองเพราะการแก้ไขแปลว่ามันต้องมีอะไรผิด ก่อนส่งงานทุกครั้งควรตรวจไม่ต่ำกว่า 2 รอบให้ 100% ว่าถูกต้องตามคอมเม้น
วิธีสุดท้ายสำหรับคนที่ทำงานแบบมืออาชีพจะไม่แก้ไขงานโดยไม่มีเหตุผล อย่าลืมว่าลูกค้าเราไม่ใช่ลูกค้าปลายทาง หมายถึงงานออกแบบของเราทำเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าเป้าหมายของแบรนด์นั้นๆ เพราะฉะนั้นความรู้สึกส่วนตัวของลูกค้าไม่ใช่สิ่งที่เราจะนำมาแก้ไขงานได้ทันทีถ้ามันขัดกับ Insight ที่เราได้มาจากการสำรวจตลาด ควรอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจว่างานควรออกมาเป็นแบบไหนเพราะอะไร เพราะลูกค้าไม่เคยได้เหตุผลจากนักออกแบบคุณเลยต้องมานั่งบ่นว่าก้ทำไปดีแล้วแก้ทำไม หรือแก้อีกแล้วหรอ ก็ไม่แปลกเพราะคุณไม่เคยปกป้องคุณค่าของสิ่งที่คุณได้ทำไป
ผมเชื่อว่าทุกคนอยากให้งานออกมาดี แต่อย่าแค่อยากนะครับต้องมีสติและเต็มที่กับมันตั้งแต่เริ่มจนจบ เพราะแบรนด์จะสำเร็จได้คุณและลูกค้าต้องทำงานเป็นทีม
more idea : http://www.allideastudio.co.th/
IG : allideastudio
Google+ : All idea studio co. ltd

ลอกมาจาก https://www.facebook.com/allideastudio/photos/a.285944034811160.65940.254691131269784/832007773538114/?type=1