วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

จะทำธุรกิจต้องรู้จักสภาพการแข่งขันในตลาด

ในการตัดสินใจทำธุรกิจสิ่งแรกที่ต้องดูคือสภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมที่เราจะลงทุน ถ้าคุณลงทุนในอุตสาหกรรมที่แข่งกันดุเดือดทำนายได้เลยว่าในการทำธุรกิจเหนื่อยและไม่ได้ตังค์แน่นอน เพราะในระยะยาวแล้วผู้ประกอบการในตลาดเหล่านี้จะไ้ด้รับเพียงกำไรปกติเท่านั้น

มาดูทฤษฎีกันก่อน ตามหลักเศรษฐศาสตร์ในเรื่องของแบบจำลองตลาดแข่งขันสมบูรณ์ มีข้อสมมติว่าถ้าตลาดสินค้าหรือบริการประเภทหนึ่งที่มีลักษณะดังนี้ คือ
  1. มีหน่วยผลิตหรือผู้ขายรายเล็กๆ จำนวนมากจนกระทั่งไม่มีรายใดมีอิทธิพลต่อการกำหนดปริมาณและราคาในตลาด ผู้ขายแต่ละรายจึงเป็นผู้รับราคา (price taker) คือ ต้องขายสินค้าตามราคาตลาดเท่านั้น
  2. สินค้าหรือบริการของผู้ผลิตแต่ละรายมีลักษณะเหมือนกันทุกประการ จึงสามารถทดแทนกันได้อย่างสมบูรณ์ นั่นคือ ถ้าผู้ขายรายใดขายสินค้าในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด ผู้บริโภคจะไม่ซื้อสินค้าจากผู้ขายรายนั้นเลย
  3. การเข้าและออกจากตลาดของผู้ผลิตแต่ละรายเป็นไปอย่างเสรี ไม่มีอุปสรรคหรือการกีดกัน 
  4. การเคลื่อนย้ายทรัพยากรการผลิตและสินค้าเป็นไปอย่างเสรี สะดวกรวดเร็ว และมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างน้อย โดยนัยของลักษณะในข้อนี้  ราคาสินค้าในแต่ละท้องที่จะมีแนวโน้มเท่ากัน 
  5. ผู้ซื้อและผู้ขายมีความรอบรู้เกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าด้านราคา ปริมาณ คุณภาพ แหล่งซื้อขาย ฯ ล ฯ 
 ในโลกของความเป็นจริง ไม่มีสินค้าหรือบริการชนิดใดที่มีโครงสร้างตลาดที่มีคุณสมบัติครบถ้วนทั้ง 5 ประการนี้ อย่างไรก็ตาม หากตลาดนั้นมีคุณสมบัติอย่างน้อย 3 ประการแรก ก็พอจะอนุโลมได้ว่า ตลาดดังกล่าวใกล้เคียงกัลป์ตลาดแข่งขันสมบูรณ์มากที่สุด เช่น โครงสร้างของตลาดข้าวเปลือกในประเทศไทย เป็นต้น

ตามแบบจำลองของตลาดแข่งขันสมบูรณ์นั้น ในระยะยาวผู้ผลิตแต่ละรายจะมีกำไรปกติเท่านั้น เพราะถ้ารายใดมีกำไรเกินปกติ จะชักนำให้มีผู้ผลิตรายใหม่ เข้ามาในตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้อุปทานสินค้าในตลาดมีมากขึ้น ส่งผลให้ราคาหรือรายรับเฉลี่ยลดลง และกำไรจะค่อยๆ หดหายไปในที่สุด

มาดูตัวอย่างในตลาดหุ้นไทยกันได้กำไรเกินปกติแป็บนึงเดี๋ยวก็มีคู่แข่งมาแชร์ตลาด

UMS เป็นหุ้นนำเข้าถ่านหินเพื่อขายให้กับโรงงานอุตสาหกรรมเมื่อหลายปีก่อนโต เร็วมาก เพราะราคาน้ำมันเตาสูง ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมเปลี่ยนหม้อไอน้ำจากใช้น้ำมันเตาเป็นใช้ถ่านหินแทน ทำให้หุ้นตัวนี้มีกำไรโตมาก เพราะสินค้าบริษัทไปทดแทนสินค้าอื่น แต่เนื่องจากธุรกิจนี้มีการเข้ามาแข่งขันของผู้ประกอบการรายใหม่ง่าย จึงทำให้บริษัทมี Gross Margin ที่ตกลงในที่สุด


ธุรกิจอย่างโรงกลั่นและปิโตรเคมี ก็เป็นธุรกิจที่คู่แข่งเข้ามาได้ง่าย การเข้ามายากหรือง่ายนั้น เงินลงทุนที่สูงเป็นปัจจัยที่ไม่สำคัญนัก เพราะบริษัทใหญ่ๆเงินระดับหมื่นล้านก็ไม่ใช่จำนวนที่มากเกินไป ถ้า spread ปิโตรเคมีอยู่ในระดับสูง ใครๆก็อยากสร้างโรงงาน เพราะคืนทุนเร็ว แต่ถ้าใครๆที่มีเงินก็สร้างได้ พอ Spread สูงทุกคนก็แห่กันเข้ามาพอ ถึงเวลานั้นราคาสินค้าก็จะตกเพราะว่าคนแย่งกันขายของทำให้ผู้ถือหุ้นปิโต รเคมีหรือโรงกลั่นมักมีช่วงเวลา Honeymoon period ที่สั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น