วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ประสิทธิผล (Effectiveness) และ ประสิทธิภาพ (Efficiency) เรื่องที่ต้องคิดตลอดเวลาเมื่อทำธุรกิจ

ประสิทธิผล (Effectiveness) และ ประสิทธิภาพ (Efficiency) เป็นคำสองคำที่เราควรนึกถึงเสมอไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่มักจะมองไปที่ประสิทธิผลกันก่อน เพราะประสิทธิผลนั้นคือ การทำงานที่มุ่งบรรลุเป้าหมายเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องการ แต่ถ้าหากอยากเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง เราต้องมองต่อไปถึงขั้นที่เหนือกว่านั้นคือ ประสิทธิภาพ ซึ่งหมายถึงการทำงานที่บรรลุเป้าหมาย ด้วยการมุ่ง ใช้ทรัพยากรให้น้อยที่สุด หรือผลิตของเสียออกมาให้น้อยที่สุด

จะเห็นว่า ประสิทธิผลนั้นขั้นสุดของมันก็คือทำงานสำเร็จ แต่ประสิทธิภาพนั้นไม่มีที่สิ้นสุด คือเราหาทางตั้งเป้าหมายที่ท้าทายเราได้มากขึ้นเรื่อยๆ และสำหรับการดำรงชีวิตหรืองานการเป็นนักลงทุน เราก็ไม่ควรมองแค่ประสิทธิผล คือ แค่ทำงานให้เสร็จ หรือลงทุนให้ได้กำไร แต่ควรจะมองประสิทธิภาพด้วย เราใช้ทรัพยากรได้น้อยลงหรือไม่
  • เช่นเราสามารถลดค่าใช้จ่ายจำพวกค่าคอมมิสชั่น หรือ ค่าใช้จ่ายเดินทาง หรือการใช้เวลาในการหาข้อมูลได้น้อยลงหรือไม่ หรือ เราผลิตของเสียออกมาน้อยลงเพียงใด เช่นจำนวนการลงทุนที่ผิดพลาดต่อปี อย่าได้มองเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กน้อย เงินค่าคอมมิสชั่นเพียง 1 บาทที่ประหยัดได้ในปีนี้ หากเรานำไปลงทุนต่อในพอร์ตของเรามีมีผลตอบแทนเฉลี่ย 20% ต่อปี ในอีก 20 ปีข้างหน้าจะกลายเป็น 38 บาท หรือเพิ่มขึ้น 3700% 
  • หรือ เวลาที่เราสูญเสียไปในการเดินทางและการติดอยู่บนท้องถนนตอนเช้า 2 ชั่วโมง ตอนเย็นอีก 2 ชั่วโมง รวมแล้ววันละ 4 ชั่วโมง ทำงานเดือนละ 22 วัน เท่ากับว่าเราสูญเสียชีวิตอันมีค่าของเราไปปีละ 1056 ชั่วโมง หรือ 44 วันต่อปี หรือเกือบ 2 เดือน ตกลงเราใช้ชีวิตจริงๆอยู่แค่ 10 เดือนต่อปีเท่านั้น หากมองในมุมเหล่านี้ 
จะเห็นว่าการพัฒนาประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แต่เป็นสิ่งดีดีที่ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตเราให้ดีขึ้นอย่างคาดไม่ถึงเลยที เดียว

แต่อย่างไรก็ตามในบางงานก็เน้นประสิทธิผลมากกว่าประสิทธิภาพ เช่นขายสินค้าราคาแพงๆ ให้ลูกค้าระดับครีม เขาจ่ายเงินแพงเท่าไรไม่ว่าขอให้ถูกใจ ถ้าแบบนี้ก็ทำทุกวิถีทางให้บรรลุเป้าหมายให้ได้แล้วกันรับรองรวย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น