วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สู้แล้วรวยจริงหรือ


บทความดีๆจากอ. เกษียร เตชะพีระ เรื่อง "ทฤษฎี "สู้แล้วรวย" ในการอธิบายความไม่เสมอภาคของคนในสังคม" หน้าfacebook เชิญอ่านโดยพลัน


ในทางสังคมศาสตร์ ทฤษฎีที่ใช้อธิบายความไม่เสมอภาค และ ชนชั้นในสังคม ใหญ่ ๆ มี ๓ ทฤษฎี ได้แก่
  1. ทฤษฎีคุณสมบัติของบุคคล (ทฤษฎี "สู้แล้วรวย")ซึ่งเห็นว่าความ รวย/จนหรือนัยหนึ่งระดับชีวิตความเป็นอยู่ทางวัตถุของคนเรานั้น ถูกกำหนดจากหรือแปรตาม คุณสมบัติของบุคคล (individual attributes) ที่ต่าง ๆ กันไป เช่น ขยัน, มัธยัสถ์, กล้าเสี่ยง, กล้าริเริ่มสร้างสรรค์ ฯลฯ ภาพชุดคำอธิบายด้านล่างก็มาจากฐานคิดตามทฤษฎีนี้ 
  2. ทฤษฎีการกักตุนโอกาสในตลาดของ Max Weber
  3. ทฤษฎีการขูดรีดและครอบงำในกระบวนการผลิตของ Karl Marx
ความแตกต่างสำคัญระหว่าง ทฤษฎี "สู้แล้วรวย" กับ ทฤษฎีของ Weber & Marx ก็คือทฤษฎีแรกผูกความรวย/จนเข้ากับปัจเจกบุคคล แบบตัวใครตัวมัน เรื่องใครเรื่องมัน ทุกคนมีโอกาสสำเร็จ/ล้มเหลวได้ขึ้นกับคน ๆ นั้นคนเดียว
คนจนกับรวยตามทฤษฎีคุณสมบัติของบุคคล

แต่ทฤษฎีของ Weber & Marx ผูกความรวย/จน หรือนัยหนึ่งความไม่เสมอภาคเข้ากับ positions (ฐานะตำแหน่ง) ทางเศรษฐกิจสังคมของคนในสังคมซึ่งถูกกำหนดจากสัมพันธภาพทางอำนาจและกฎหมายกติกาในสังคมนั้น ๆ

นั่นแปลว่าความรวย/จนจึงไม่ได้ขึ้นต่อคุณสมบัติของบุคคลคนหนึ่งเป็นหลัก ซึ่งทุกคนมีสิทธิ์สู้แล้วรวยได้ในสนามแข่งที่ราบเรียบ, หากเสนอว่าสนามแข่งมันเอียงกระเท่เร่หรือเหลื่อมล้ำลดหลั่นแต่ต้น บางตำแหน่งฐานะในสังคมได้เปรียบ บางตำแหน่งฐานะในสังคมเสียเปรียบ บุคคลที่อยู่ในตำแหน่งฐานะที่ได้เปรียบย่อมมีโอกาสชนะมากกว่า ได้กันท่าตัดโอกาส/ขูดรีดครอบงำคนอื่นแต่ต้น พูดอีกอย่างคือสังคมไม่เสมอภาคเพราะมันเอียง แบ่งเป็นชนชั้น (ฐานะตำแหน่งในสังคมเศรษฐกิจนั่นเอง) บุคคลบางคนหากสังกัดชนชั้นเสียเปรียบ ถึงสู้เท่าไหร่ก็ไม่รวยหรือรวยยากมาก, แต่บางคนสังกัดชนชั้นได้เปรียบ ไม่สู้หรือสู้เบา ๆ ก็รวยแล้วจ้า
จนรวยตามทฤษฎ๊ของ Weber & Marx

ที่มา เกษียร เตชะพีระ, "ทฤษฎี "สู้แล้วรวย" ในการอธิบายความไม่เสมอภาคของคนในสังคม",online https://www.facebook.com/kasian.tejapira

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น