วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2558

5 เทคนิคการสร้าง Brand

ธุรกิจไม่มี Brand หรือ ฺBrand ไม่ชัดจะอยู่ลำบาก บริษัทที่มี Brand ชัดๆ ลูกค้าจะรู้สึกว่าเขาจะมีชีวิตที่ดีขึ้นจากสิ่งที่เราอยากจะให้เป็นอย่างไร เช่นเข้าร้านสตาบักแล้วเท่ อยากแชร์ให้ชาวบ้านรับรู้ เจ้าของร้านก็รับทรัพย์ นับเงินกันไม่ทัน

การสร้างแบรนด์ต้องรู้ว่าเรากำลังจะขายใคร ได้ทำตลาดถูก Customer คือกลุ่มลูกค้ามาดูที่ยังไม่จ่ายเงิน Consumer คือลูกค้าที่จ่ายเงิน กับ end-user คือคนที่ใช้สินค้าจริงๆ อย่างไปซื้อนม คนอาจไปดูกันทั้งบาน คนจ่ายเงินคือคุณแม่ ส่วนคนกินคือลูก ดัังนั้นเราต้องพยายามเน้นไปที่ Consumer inside พยายามทำความเข้าใจลูกค้าให้ลึกๆ เพราะพวกนี้เขาเป็นคนจ่ายเงิน

เมื่อรู้จักลูกค้าแล้ว เวลาจะสร้าแบรนด์มีเรื่องต้องคิด 5 เรื่องดังนี้ เวลาคิดให้เขียนแต่ละข้อออกมาเป็น 1 ประโยคสั้นๆ และควรมีประเด็นเดียว ถ้ามีหลายประเด็นลูกค้าจะจำไม่ได้ ทำแบรนด์ไปก็เสียเวลา

1.Believe


ต้องดูว่าเราจะสื่อสารเรื่องราวให้ลูกค้าจะมองเห็นและมีความเชื่อกับแบรนด์เราว่าอย่างๆไรโดยมี 2 ประเด็นที่ต้องคิดคือ

  • Brand Meaning เราให้ความหมายของแบรนด์อย่างไร
  • Brand Character แบรนด์เรามีลักษณะให้คนคนอื่นรู้สึกอย่างไร

2.Relevant


แบรนด์เราทำให้ชีวิตลูกค้าดีขึ้นได้อย่างไร ส่วนใหญ่ก็เป็นการแก้ปัญหาอะไรซักอย่างให้ลูกค้าของเรา คนเรามีปัญหาร้อยแปด ถ้าบริษัทเรามีแบรนด์ดีๆ เวลาลูกค้ามีปัญหาก็จะนึกถึงเรา เงินจะไหลมาเทมา

3.Ability


แบรนด์เรามีความสามารถเฉพาะตัวอะไร 

4.Network


ช่องทางที่ทำให้คนอื่นรู้จัก จะสื่อสารสร้างแบรนด์ช่องทางไหนก็ว่าไป

5.Differentiated


ความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร แบรนด์เราทำอะไรที่เด่นๆ และไม่เหมือนชาวบ้าน ใช้เป็นจุดขายได้ แต่ถ้าจะอยู่อย่างยั่งยื่นต้องแข่งด้วยความสามารถที่คนอื่นยากที่จะเลียนแบบได้ จะเป็นการป้องกันคู่แข่งเข้ามาได้ซักพักหนึ่ง 

หัวใจของการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งอยู่ที่ข้อ 2 และ 4 ถ้าแต่ละแบรนด์สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ว่า ทำให้ชีวิตดีขึ้นได้อยางไร และมีความแต่กต่างจากลูกค้าอย่างไร แบรนด์เราก็จะเข้มแข็ง เงินทองก็จะไหลมาเทมา เยี่ยมจริง





 

วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558

3เรื่องที่ต้องระลึกเสมอเวลาพูดกับลูกน้องไม่ให้งานล่มจม

เวลาพูดกับลูกน้อง ถ้าพูดไม่ดีคนก็ไม่อยู่กับเรา ระยะยาวงานเสียหายบริษัทล่มจม David Rock ได้กล่าวไว้ในหนังสือ Quiet Leadership ถึงหนึ่งในทักษะที่ผู้บริหารที่ต้องการดึงศักยภาพของลูกน้องให้มีผลการปฏิบัติงานที่ดีขึ้น คือ การพูดที่มีเจตนาดี โดยที่คำพูดนั้นจะต้อง...

1.กระชับ รวบรัด


เห็นภาพสิ่งที่คุณต้องการจะพูด ทำให้ลูกน้องเข้าใจถึงสิ่งที่คุณต้องการสื่อออกไป หากคุณอารัมภบทยาวนานเกินไป หรือพูดบ่นด่าแต่ปัญหาที่เกิดขึ้นไปแล้ว คนฟังก็คงไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่คุณพูดว่าคุณต้องการอะไร จำไว้ว่าหน่วยความจำของสมองในการทำงานของคนเรามันมีจำกัด!

2.เฉพาะเจาะจงในสิ่งที่คุณพูด


 เช่น ไม่ควรพูดว่า "ไว้ค่อยคุยเรื่องนี้กันวันหลัง" แต่ให้พูดว่า "ไว้คุยกันเรื่องนี้บ่ายสามโมงวันนี้ว่าเราจะมีหัวข้ออะไรบ้างในการประชุมวันพุธหน้า" เมื่อมีความเฉพาะเจาะจง คุณได้สร้างความไว้วางใจให้กับลูกน้องของคุณได้เป็นอย่างดี และเค้าสามารถรู้ถึงสิ่งที่คาดหวังได้

3.มีเมตตาต่อคนฟัง


มุ่งเน้นไปที่ผลกระทบในเชิงบวกต่อลูกน้องของคุณ เลือกคำพูดอย่างระมัดระวัง และให้ความสนใจในการสนทนาแบบเต็มที่

การพูดที่มีเจตนาดีต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกฝน แต่ทุกคนก็สามารถทำได้ โดยก่อนอื่นต้องตระหนักรู้ในตัวเองก่อน ว่าการพูดของเราเป็นแบบไหน และทุกครั้งที่จะพูดคุยกับลูกน้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการพัฒนาผลการปฏิบัติงาน ให้ถามตัวเองก่อนว่าสิ่งที่เรากำลังจะพูดนั้นมัน กระชับ เจาะจง และมีเมตตา หรือเปล่า

ที่มา https://www.facebook.com/CoachACoach/photos/a.1129329067082189.1073741828.1129140050434424/1197766286905133/?type=3

วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2558

วิธีทำให้ blogger แสดงรูป preview บน facebook ได้ถูกต้อง


ปัญหา blogger แสดงผลรูป preview บท facebook ไม่ถูกต้อง หรือขนาดภาพไม่ได้ เป็นปัญหาใหญ่สำครับคนทำเว็บที่ไม่ได้ใช้ wordpress อย่างผมมาก เพราะเวลาเอาบบทความไปแชร์ ตาม social media ต่างๆ แล้วมันไม่แสดงผลอย่างที่เราต้องการ ทำให้ยอดแชร์ไม่ได้ดั่งใจ หลังจากมั่วๆมาซักพัก ก็เจอวิธีการครับแค่ใส่ CODE Open Graph tags ไปนิดเดียว

แก้ไข HTML
ใส่CODE 
CODE ที่ต้องก็อบไปแปะ ระหว่าง tag <HEAD></HEAD>

<!-- Begin Open Graph metadata -->
<b:if cond='data:blog.postImageThumbnailUrl'>
<meta expr:content='data:blog.postImageUrl' property='og:image'/>
<b:else/>
<meta content='URL ของรูปที่จะให้แสดงถ้าไม่มีรูปในบทความ' property='og:image'/>
</b:if>
<meta content='600' property='og:image:width'/>
<meta content='315' property='og:image:height'/>
<!-- End Open Graph metadata -->

โค๊ต Open Graph tags นี้จะบอก facebook ให้รู้ว่า

  • ให้เอารูปมาในโพสมาแสดง ไม่ต้องไปหาที่ไหน
  • ถ้าในบทความไม่มีรูป ก็จะเอา ภาพจากURL ของรูปที่จะให้แสดงถ้าไม่มีรูปในบทความ
  • ทำรูปให้มันกว้าง 600 สูง 315
ภาพออกมาสวยงาม
นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำจาก facebook (https://developers.facebook.com/docs/sharing/best-practices) บอกมาว่า
  • ภาพที่ดีควรมีขนาด 600 x 315 แต่ที่แนะนำคือ 1200x630 หรือคิดเป็นสัดส่วน 1.91:1
  • ถ้าขนาดต่ำกว่า 200 x 200 ภาพจะไม่ขึ้น
ทีนี้เวลาโพส ถ้าเราอยากมั่นใจว่าภาพจะเป็นอย่าไร ให้
  • ไปทดลองดูภาพที่ URL Debugger https://developers.facebook.com/tools/debug แล้วก็รอดูว่าภาพจะเป็นอย่างที่เราต้องการหรือเปล่า
  • กำหนดค่า og:image:width และ og:image:height  ลงใน Open Graph tags ซะเลย ในโคตที่่ให้ ก็อบวางผมตั้งค่าไว้ที่ 600 x 315 
หวังว่าบทความนี้คงช่วยมิตรสหายได้นะครับของคุณครับผม